ประเภทของสัตว์ทางสังคมวิทยา
แบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทใหญ่ ๆ คือ
1.สัตว์สังคม เป็นสัตว์ที่อยู่ร่วมกันเป็นกลุ่ม เพื่อช่วยเหลือพึ่งพาอาศัยกันและกัน เช่น ผึ้ง แตน ต่อ ช้าง เป็นต้น
2.สัตว์โลกเป็นสัตว์ที่ดำรงชีวิตตามลำพังได้โดยไม่ต้องอยู่รวมกันเป็นกลุ่มก็ได้ เช่น จระเข้ แมว สุนัข แรด เป็นต้น
มนุษย์จัดเป็นสัตว์สังคมจำพวกสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม โดยมีลักษณะพิเศษเหนือกว่าสัตว์อื่น ๆ เพราะมีลักษณะดังนี้
1.อยุ่ร่วมกันเป็นกลุ่ม
2.มีการพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน
3.มีความสัมพันธ์กันทางสังคม
4.มีการจัดระเบียบทางสังคม
ลักษณะพื้นฐานทางสังคม
สังคมมนุษย์หรือสังคมสัตว์จะมีลักษณะพื้นฐานร่วมกันคือ
1.ระดับความสัมพันธ์ ต้องมีความสัมพันธ์ระหว่างหน่วยงานต่าง ๆ ที่มาอยู่ร่วมกันสูงกว่าการมารวมเป็นกลุ่มเฉย ๆ
2.หน่วยที่มารวมตัวกันต้องเป็นอิสระแยกอยู่ต่างหากจากกัน
ลักษณะพิเศษของมนุษย์ที่แตกต่างจากสัตว์อื่น
1.มีมันสมองขนาดใหญ่สามารถใช้สมองได้ดีกว่ามีสติปัญญาสูงและเฉลียวฉลาดกว่าสัตว์เช่น มีการทดสอบข้อเท็จจริงมีการตั้งโจทย์ปัญหามีการศึกษาค้นคว้าเป็นต้น
2.มนุษย์สามารถสร้างและใช้สัญลักษณ์ต่าง ๆ ได้ดี เช่น ภาษา ท่าทาง กริยา เครื่องหมายต่าง ๆ ทำให้สามารถมนุษย์ถ่ายทอดลักษณะวัฒนธรรมต่อกันได้อย่างกว้างขวาง
3.มนุษย์มีพฤติกรรมที่เกิดขึ้นจากสังคมและวัฒนธรรมทำให้สังคมมนุษย์มีความเป็นระเบียบและสามารถสร้างความ เจริญก้าวหน้าให้สังคมได้
สิ่งที่มนุษย์ต่างจากสัตว์อื่น
1.มีมันสมองขนาดใหญ่ทำให้มีสติปัญญาเฉลียวฉลาด
2.มีร่างกายตั้งตรงกับพื้นโลกสามารถใช้มือได้อย่างมีประสิทธิภาพ
3.มีหัวแม่มืออยู่ตรงข้ามกับนิ้วอื่นๆและไม่ติดกัน
4.มีดวงตาอยู่ด้านหน้าสามารถมองเห็นสิ่งต่างๆได้ดี
5.มีความต้องการทางเพศไม่จำกัดฤดูกาล
6.มีระบบประสาทที่สลับซับซ้อน
สังคมมนุษย์
สังคมหมายถึงกลุ่มของสิ่งมีชีวิตที่มาอยู่รวมกันโดยมีความสัมพันธ์กันในลักษณะคงทนถาวร
สังคมมนุษย์ หมายถึง กลุ่มชนที่อาศัยอยู่ร่วมกันในดินแดนหนึ่ง มีความสัมพันธ์กันภายใต้ระเบียบและกฎเกณฑ์เดียวกันมีลักษณะวัฒนธรรมเหมือนกัน
ลักษณะที่สำคัญของสังคม
1.มีอาณาเขตบริเวณที่อยู่อาศัยที่แน่นอน
2.ประกอบด้วยกลุ่มคนที่อยู่ร่วมกันอย่างถาวรทุกเพศทุกวัย
3.มีความสัมพันธ์ทางสังคและพึ่งพาอาศัยกัน
4.เป็นกลุ่มคนที่มีอิสระในการประกอบอาชีพและเลี้ยงตัวเองได้
5.กลุ่มดำเนินไปเรื่อยๆดำรงอยู่และสืบทอดโดยอนุชนรุ่นหลัง
6.มีวัฒนธรรมหรือวิถีชีวิตเด่นชัดเป็นของตนเอง
สาเหตุที่มนุษย์อยู่ร่วมกันเป็นสังคม
1.เพื่อสนองความต้องการพื้นฐานได้แก่
-ความต้องการทางกายภาพเช่นต้องการสิ่งอำนวยความสะดวกสบายในการดำรงชีวิต
-ความต้องการทางชีวภาพเช่นอาหารเครื่องนุ่งห่มที่อยู่อาศัยยารักษาโรค
-ความต้องการทางจิตใจเช่นความรักความอบอุ่น
-ความต้องการทางสังคม เช่น ต้องการเป็นที่ยอมรับของคนในสังคม อันทำให้เกิดอำนาจ เกียรติยศชื่อเสียง
2เพื่อทำให้มีความเป็นมนุษย์สมบูรณ์
3.เพื่อสร้างความเจริญให้กับตนเองและสังคม
หน้าที่ของสังคมมนุษย์
1.ผลิตสมาชิกใหม่และทำนุบำรุงสมาชิกเก่า
2.ผลิตสินค้าและบริการเพื่อสนองความต้องการ
3.อบรมสมาชิกให้เรียนรู้ระเบียบกฎเกณฑ์ของสังคม
ลักษณะที่มนุษย์เหมือนกับสัตว์อื่น
1.ต้องอาศัยสิ่งแวดล้อมทั้งทางชีวภาพและทางธรรมชาติเพื่อบำบัดความต้องการต่าง ๆ
2.มีลักษณะคล้ายผู้ให้กำเนิดหรือบรรพบุรุษ
3.สามารถปรับตัวเข้ากับสิ่งแวดล้อมได้ผู้ที่ปรับตัวไม่ได้จึงมักเสียเปรียบ
4.มีความสามารถแสวงหาหรือค้นคว้าวิธีการต่อสู้เพื่อให้ได้ในสิ่งที่ตนต้องการ
5.ต้องการอาหารน้ำอากาศและที่อยู่อาศัย
6.มีความสามารถในการสืบพันธ์หรือสร้างสมาชิกใหม่
วัฒนธรรม
วัฒนธรรม หมายถึง ความเจริญงอกงามทั้งทางด้านวัตถุและจิตใจที่มนุษย์สร้างขึ้นในสังคมหนึ่ง ที่มีการสืบทอดมาเป็นเวลานานและตกทอดไปสู่ชนรุ่นหลัง ได้แก่ ภาษา ศาสนา ขนบธรรมเนียมประเพณี การแต่งกาย เป็นต้น
ประเภทของวัฒนธรรม
1.วัฒนธรรมทางวัตถุหรือรูปนาม ได้แก่ สิ่งประดิษฐ์ต่าง ๆ เช่น ตู้เย็น โทรทัศน์ สถาปัตยกรรม เครื่องจักรกล
2.วัฒนธรรมที่ไม่ใช่วัตถุหรือนามธรรม ได้แก่ ภาษา อุดมการณ์ ค่านิยม ขนบธรรมเนียมประเพณี
ลักษณะของวัฒนธรรม
1.เกิดจากการเรียนรู้ไม่ใช่ถ่ายทอดทางชีวภาพหรือกรรมพันธุ์
2.เป็นวิถีชีวิตหรือแบบแผนการดำรงชีวิต
3.เป็นมรดกทางสังคมถ่ายทอดมาสู่ชนรุ่นหลังได้
4.มีการเปลี่ยนแปลงได้ปรับปรุงให้ดีขึ้นหรือสูญสลายไป
5.เพื่อตอบสนองความต้องการของสมาชิกในสังคม
ความสำคัญของวัฒนธรรม
1.สนองความต้องการของมนุษย์
2.เป็นเครื่องมือในการจัดระเบียบทางสังคม
3.สร้างความเจริญให้สังคม
4.สร้างความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันแก่สมาชิก
5.สร้างเอกลักษณ์ของสังคม
6.สร้างมรดกทางสังคม
ลักษณะสำคัญของวัฒนธรรมไทย
1.เป็นวัฒนธรรมที่นับถือระบบเครือญาติ
2.เป็นวัฒนธรรมที่เชื่อถือในการบุญการกุศลในเทศกาลต่างๆ
3.เป็นวัฒนธรรมที่มีแบบแผนพิธีกรรมมีขั้นตอนต่างๆในการประกอบพิธี
4.เป็นวัฒนธรรมแบบเกษตรกรรม
5.เป็นวัฒนธรรมที่นิยมความสนุกสนานการละเล่นที่แสดงถึงความยิ่งใหญ่ของงาน
6. เป็นวัฒนธรรมผสมผสานของวัฒนธรรมชาติอื่น ๆ เข้าผสมผสานด้วย
สิทธิและหน้าที่
สิทธิ คือ อำนาจอันชอบธรรม ที่บุคคลทุกคนพึงมีพึงได้ แต่ต้องตั้งอยู่บนความไม่ไปเบียดเบียนคนอื่น สิทธิ ที่มีอยู่นี้จะปรากฏในหลาย ๆ ด้าน เช่น สิทธิในบ้านเรือนที่อยู่อาศัย ตลอดจนทรัพย์สินต่าง ๆ ของตนเอง ที่เรียกว่า สิทธิตามกฎหมายแพ่ง หรือในการเลือกตั้งบุคคลทุกคนก็มีสิทธิในการ เลือกตั้ง ตามที่กฎหมายกำหนดเอาไว้ นอกจากนี้ยังมีสิทธิในร่างกาย สิทธิในการประกอบกิจการ ต่าง ๆ ตามที่ตนเองต้องการและสิทธิที่สำคัญที่สุดของบุคคลก็คือ สิทธิตามกฎหมาย
สิทธิของประชาชนตามกฎหมาย สิทธิของประชาชนตามกฎหมาย โดยรัฐธรรมนูญได้กำหนดสิทธิของ ประชาชนเอาไว้ โดยให้ถือว่าประชาชนไทยไม่ว่าแหล่งกำเนิดใด หรือนับถือศาสนาใด ย่อมอยู่ในความคุ้มครอง แห่งรัฐธรรมนูญเสมอกันหมด
1. บุคคลย่อมมีสิทธิทางการเมือง หมายความว่า คนทุกคนย่อมสามารถเข้ามารับผิดชอบต่อบ้านเมือง โดยการใช้สิทธิตามกฎหมาย เช่น กฎหมายเลือกตั้ง เมื่อประชาชนอายุครบ 18 ปี ย่อมมีสิทธิที่จะเลือกตั้งผู้แทนราษฎร เพื่อให้ผู้แทนราษฎรไปทำหน้าที่ทางการเมืองแทนตนเอง
2. บุคคลย่อมมีสิทธิในทรัพย์สินและย่อมได้รับความคุ้มครอง ทั้งสิทธิอันนั้นสามารถใช้อ้างอิงหรือยืนยันกับบุคคลอื่นได้ตลอดเวลา ถึงแม้ว่าทรัพย์สินจะไปอยู่ที่ใด จะถูกขโมยหรือ เคลื่อนย้ายไปที่อื่นผู้เป็นเจ้าของก็ยังสามารถอ้างสิทธิอันนี้ได้โดยตลอด
ถ้าหากบุคคลอื่นครอบครองเอาไว้โดยไม่ชอบด้วยกฎหมายหรือโดยไม่มีสิทธิก็ย่อมสามารถฟ้องร้องต่อศาล เพื่อบังคับให้เป็นไปตามสิทธิได้
หน้าที่
หน้าที่ หมายถึง ข้อปฏิบัติของบุคคลทุกคนที่จะต้องกระทำให้เกิดประโยชน์เป็นผลดีต่อประเทศชาติบ้านเมือง หน้าที่ต่าง ๆ ที่จะต้องปฏิบัติ ซึ่งกำหนดเอาไว้ในรัฐธรรมนูญหลายประการ
หน้าที่ของประชาชนตามกฎหมาย
1.คนไทยทุกคนมีหน้าที่รักษาไว้ซึ่งชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และการปกครองระบอบประชาธิปไตย
2.บุคคลมีหน้าที่ป้องกันประเทศ หน้าที่ข้อนี้มิใช่ว่าจะเป็นหน้าที่ของทหารเท่านั้น คนไทยทุกคน ต้องมีหน้าที่เช่นเดียวกัน
3.บุคคลมีหน้าที่รับราชการทหารเพราะการเป็นทหารนั้นจะได้ทำหน้าที่ป้องกัน ประเทศโดยตรง พอถึงวัยหรืออายุตามที่กฎหมายกำหนดก็จะต้องไปรับราชการทหาร
4.บุคคลมีหน้าที่ปฏิบัติตามกฎหมายเนื่องจากกฎหมายเป็นหลักปฏิบัติในการอยู่ร่วมกันในสังคม
5.บุคคลมีหน้าที่ช่วยเหลือราชการ เมื่อถึงคราวที่ประชาชนพอจะช่วยเหลือได้ หรือเมื่อทางราชการขอความช่วยเหลือในฐานะที่เป็นประชาชนพลเมืองของชาติจึง ต้องมีหน้าที่อันนี้
แบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทใหญ่ ๆ คือ
1.สัตว์สังคม เป็นสัตว์ที่อยู่ร่วมกันเป็นกลุ่ม เพื่อช่วยเหลือพึ่งพาอาศัยกันและกัน เช่น ผึ้ง แตน ต่อ ช้าง เป็นต้น
2.สัตว์โลกเป็นสัตว์ที่ดำรงชีวิตตามลำพังได้โดยไม่ต้องอยู่รวมกันเป็นกลุ่มก็ได้ เช่น จระเข้ แมว สุนัข แรด เป็นต้น
มนุษย์จัดเป็นสัตว์สังคมจำพวกสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม โดยมีลักษณะพิเศษเหนือกว่าสัตว์อื่น ๆ เพราะมีลักษณะดังนี้
1.อยุ่ร่วมกันเป็นกลุ่ม
2.มีการพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน
3.มีความสัมพันธ์กันทางสังคม
4.มีการจัดระเบียบทางสังคม
ลักษณะพื้นฐานทางสังคม
สังคมมนุษย์หรือสังคมสัตว์จะมีลักษณะพื้นฐานร่วมกันคือ
1.ระดับความสัมพันธ์ ต้องมีความสัมพันธ์ระหว่างหน่วยงานต่าง ๆ ที่มาอยู่ร่วมกันสูงกว่าการมารวมเป็นกลุ่มเฉย ๆ
2.หน่วยที่มารวมตัวกันต้องเป็นอิสระแยกอยู่ต่างหากจากกัน
ลักษณะพิเศษของมนุษย์ที่แตกต่างจากสัตว์อื่น
1.มีมันสมองขนาดใหญ่สามารถใช้สมองได้ดีกว่ามีสติปัญญาสูงและเฉลียวฉลาดกว่าสัตว์เช่น มีการทดสอบข้อเท็จจริงมีการตั้งโจทย์ปัญหามีการศึกษาค้นคว้าเป็นต้น
2.มนุษย์สามารถสร้างและใช้สัญลักษณ์ต่าง ๆ ได้ดี เช่น ภาษา ท่าทาง กริยา เครื่องหมายต่าง ๆ ทำให้สามารถมนุษย์ถ่ายทอดลักษณะวัฒนธรรมต่อกันได้อย่างกว้างขวาง
3.มนุษย์มีพฤติกรรมที่เกิดขึ้นจากสังคมและวัฒนธรรมทำให้สังคมมนุษย์มีความเป็นระเบียบและสามารถสร้างความ เจริญก้าวหน้าให้สังคมได้
สิ่งที่มนุษย์ต่างจากสัตว์อื่น
1.มีมันสมองขนาดใหญ่ทำให้มีสติปัญญาเฉลียวฉลาด
2.มีร่างกายตั้งตรงกับพื้นโลกสามารถใช้มือได้อย่างมีประสิทธิภาพ
3.มีหัวแม่มืออยู่ตรงข้ามกับนิ้วอื่นๆและไม่ติดกัน
4.มีดวงตาอยู่ด้านหน้าสามารถมองเห็นสิ่งต่างๆได้ดี
5.มีความต้องการทางเพศไม่จำกัดฤดูกาล
6.มีระบบประสาทที่สลับซับซ้อน
สังคมมนุษย์
สังคมหมายถึงกลุ่มของสิ่งมีชีวิตที่มาอยู่รวมกันโดยมีความสัมพันธ์กันในลักษณะคงทนถาวร
สังคมมนุษย์ หมายถึง กลุ่มชนที่อาศัยอยู่ร่วมกันในดินแดนหนึ่ง มีความสัมพันธ์กันภายใต้ระเบียบและกฎเกณฑ์เดียวกันมีลักษณะวัฒนธรรมเหมือนกัน
ลักษณะที่สำคัญของสังคม
1.มีอาณาเขตบริเวณที่อยู่อาศัยที่แน่นอน
2.ประกอบด้วยกลุ่มคนที่อยู่ร่วมกันอย่างถาวรทุกเพศทุกวัย
3.มีความสัมพันธ์ทางสังคและพึ่งพาอาศัยกัน
4.เป็นกลุ่มคนที่มีอิสระในการประกอบอาชีพและเลี้ยงตัวเองได้
5.กลุ่มดำเนินไปเรื่อยๆดำรงอยู่และสืบทอดโดยอนุชนรุ่นหลัง
6.มีวัฒนธรรมหรือวิถีชีวิตเด่นชัดเป็นของตนเอง
สาเหตุที่มนุษย์อยู่ร่วมกันเป็นสังคม
1.เพื่อสนองความต้องการพื้นฐานได้แก่
-ความต้องการทางกายภาพเช่นต้องการสิ่งอำนวยความสะดวกสบายในการดำรงชีวิต
-ความต้องการทางชีวภาพเช่นอาหารเครื่องนุ่งห่มที่อยู่อาศัยยารักษาโรค
-ความต้องการทางจิตใจเช่นความรักความอบอุ่น
-ความต้องการทางสังคม เช่น ต้องการเป็นที่ยอมรับของคนในสังคม อันทำให้เกิดอำนาจ เกียรติยศชื่อเสียง
2เพื่อทำให้มีความเป็นมนุษย์สมบูรณ์
3.เพื่อสร้างความเจริญให้กับตนเองและสังคม
หน้าที่ของสังคมมนุษย์
1.ผลิตสมาชิกใหม่และทำนุบำรุงสมาชิกเก่า
2.ผลิตสินค้าและบริการเพื่อสนองความต้องการ
3.อบรมสมาชิกให้เรียนรู้ระเบียบกฎเกณฑ์ของสังคม
ลักษณะที่มนุษย์เหมือนกับสัตว์อื่น
1.ต้องอาศัยสิ่งแวดล้อมทั้งทางชีวภาพและทางธรรมชาติเพื่อบำบัดความต้องการต่าง ๆ
2.มีลักษณะคล้ายผู้ให้กำเนิดหรือบรรพบุรุษ
3.สามารถปรับตัวเข้ากับสิ่งแวดล้อมได้ผู้ที่ปรับตัวไม่ได้จึงมักเสียเปรียบ
4.มีความสามารถแสวงหาหรือค้นคว้าวิธีการต่อสู้เพื่อให้ได้ในสิ่งที่ตนต้องการ
5.ต้องการอาหารน้ำอากาศและที่อยู่อาศัย
6.มีความสามารถในการสืบพันธ์หรือสร้างสมาชิกใหม่
วัฒนธรรม
วัฒนธรรม หมายถึง ความเจริญงอกงามทั้งทางด้านวัตถุและจิตใจที่มนุษย์สร้างขึ้นในสังคมหนึ่ง ที่มีการสืบทอดมาเป็นเวลานานและตกทอดไปสู่ชนรุ่นหลัง ได้แก่ ภาษา ศาสนา ขนบธรรมเนียมประเพณี การแต่งกาย เป็นต้น
ประเภทของวัฒนธรรม
1.วัฒนธรรมทางวัตถุหรือรูปนาม ได้แก่ สิ่งประดิษฐ์ต่าง ๆ เช่น ตู้เย็น โทรทัศน์ สถาปัตยกรรม เครื่องจักรกล
2.วัฒนธรรมที่ไม่ใช่วัตถุหรือนามธรรม ได้แก่ ภาษา อุดมการณ์ ค่านิยม ขนบธรรมเนียมประเพณี
ลักษณะของวัฒนธรรม
1.เกิดจากการเรียนรู้ไม่ใช่ถ่ายทอดทางชีวภาพหรือกรรมพันธุ์
2.เป็นวิถีชีวิตหรือแบบแผนการดำรงชีวิต
3.เป็นมรดกทางสังคมถ่ายทอดมาสู่ชนรุ่นหลังได้
4.มีการเปลี่ยนแปลงได้ปรับปรุงให้ดีขึ้นหรือสูญสลายไป
5.เพื่อตอบสนองความต้องการของสมาชิกในสังคม
ความสำคัญของวัฒนธรรม
1.สนองความต้องการของมนุษย์
2.เป็นเครื่องมือในการจัดระเบียบทางสังคม
3.สร้างความเจริญให้สังคม
4.สร้างความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันแก่สมาชิก
5.สร้างเอกลักษณ์ของสังคม
6.สร้างมรดกทางสังคม
ลักษณะสำคัญของวัฒนธรรมไทย
1.เป็นวัฒนธรรมที่นับถือระบบเครือญาติ
2.เป็นวัฒนธรรมที่เชื่อถือในการบุญการกุศลในเทศกาลต่างๆ
3.เป็นวัฒนธรรมที่มีแบบแผนพิธีกรรมมีขั้นตอนต่างๆในการประกอบพิธี
4.เป็นวัฒนธรรมแบบเกษตรกรรม
5.เป็นวัฒนธรรมที่นิยมความสนุกสนานการละเล่นที่แสดงถึงความยิ่งใหญ่ของงาน
6. เป็นวัฒนธรรมผสมผสานของวัฒนธรรมชาติอื่น ๆ เข้าผสมผสานด้วย
สิทธิและหน้าที่
สิทธิ คือ อำนาจอันชอบธรรม ที่บุคคลทุกคนพึงมีพึงได้ แต่ต้องตั้งอยู่บนความไม่ไปเบียดเบียนคนอื่น สิทธิ ที่มีอยู่นี้จะปรากฏในหลาย ๆ ด้าน เช่น สิทธิในบ้านเรือนที่อยู่อาศัย ตลอดจนทรัพย์สินต่าง ๆ ของตนเอง ที่เรียกว่า สิทธิตามกฎหมายแพ่ง หรือในการเลือกตั้งบุคคลทุกคนก็มีสิทธิในการ เลือกตั้ง ตามที่กฎหมายกำหนดเอาไว้ นอกจากนี้ยังมีสิทธิในร่างกาย สิทธิในการประกอบกิจการ ต่าง ๆ ตามที่ตนเองต้องการและสิทธิที่สำคัญที่สุดของบุคคลก็คือ สิทธิตามกฎหมาย
สิทธิของประชาชนตามกฎหมาย สิทธิของประชาชนตามกฎหมาย โดยรัฐธรรมนูญได้กำหนดสิทธิของ ประชาชนเอาไว้ โดยให้ถือว่าประชาชนไทยไม่ว่าแหล่งกำเนิดใด หรือนับถือศาสนาใด ย่อมอยู่ในความคุ้มครอง แห่งรัฐธรรมนูญเสมอกันหมด
1. บุคคลย่อมมีสิทธิทางการเมือง หมายความว่า คนทุกคนย่อมสามารถเข้ามารับผิดชอบต่อบ้านเมือง โดยการใช้สิทธิตามกฎหมาย เช่น กฎหมายเลือกตั้ง เมื่อประชาชนอายุครบ 18 ปี ย่อมมีสิทธิที่จะเลือกตั้งผู้แทนราษฎร เพื่อให้ผู้แทนราษฎรไปทำหน้าที่ทางการเมืองแทนตนเอง
2. บุคคลย่อมมีสิทธิในทรัพย์สินและย่อมได้รับความคุ้มครอง ทั้งสิทธิอันนั้นสามารถใช้อ้างอิงหรือยืนยันกับบุคคลอื่นได้ตลอดเวลา ถึงแม้ว่าทรัพย์สินจะไปอยู่ที่ใด จะถูกขโมยหรือ เคลื่อนย้ายไปที่อื่นผู้เป็นเจ้าของก็ยังสามารถอ้างสิทธิอันนี้ได้โดยตลอด
ถ้าหากบุคคลอื่นครอบครองเอาไว้โดยไม่ชอบด้วยกฎหมายหรือโดยไม่มีสิทธิก็ย่อมสามารถฟ้องร้องต่อศาล เพื่อบังคับให้เป็นไปตามสิทธิได้
หน้าที่
หน้าที่ หมายถึง ข้อปฏิบัติของบุคคลทุกคนที่จะต้องกระทำให้เกิดประโยชน์เป็นผลดีต่อประเทศชาติบ้านเมือง หน้าที่ต่าง ๆ ที่จะต้องปฏิบัติ ซึ่งกำหนดเอาไว้ในรัฐธรรมนูญหลายประการ
หน้าที่ของประชาชนตามกฎหมาย
1.คนไทยทุกคนมีหน้าที่รักษาไว้ซึ่งชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และการปกครองระบอบประชาธิปไตย
2.บุคคลมีหน้าที่ป้องกันประเทศ หน้าที่ข้อนี้มิใช่ว่าจะเป็นหน้าที่ของทหารเท่านั้น คนไทยทุกคน ต้องมีหน้าที่เช่นเดียวกัน
3.บุคคลมีหน้าที่รับราชการทหารเพราะการเป็นทหารนั้นจะได้ทำหน้าที่ป้องกัน ประเทศโดยตรง พอถึงวัยหรืออายุตามที่กฎหมายกำหนดก็จะต้องไปรับราชการทหาร
4.บุคคลมีหน้าที่ปฏิบัติตามกฎหมายเนื่องจากกฎหมายเป็นหลักปฏิบัติในการอยู่ร่วมกันในสังคม
5.บุคคลมีหน้าที่ช่วยเหลือราชการ เมื่อถึงคราวที่ประชาชนพอจะช่วยเหลือได้ หรือเมื่อทางราชการขอความช่วยเหลือในฐานะที่เป็นประชาชนพลเมืองของชาติจึง ต้องมีหน้าที่อันนี้